หลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร เจ้าอาวาสวัดป่าวีรญาณ บ้านตาเตน ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์



ประวัติหลวงปู่ใหญ่ ญาณวีโร
ประวัติพระครูญาณกิจไพศาล( จต.ชอ.วิ )
พระอาจารย์ใหญ่ ญาณวีโร
เจ้าอาวาสวัดป่าวีรญาณ
บ้านตาเตน ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์
ชาติภูมิ
พระครูญาณกิจไพศาล(จต.ชอ.วิ) ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๑๒ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๘ (ปีกุน) มีพี่น้องทั้งหมด ๘ คนท่านเป็นบุตรคนสุดท้องของ คุณพ่อกจ คุณแม่แช่ม นามสกุล จงบริบูรณ์ เดิมชื่อ ใหญ่ จงบริบูรณ์ เกิดที่บ้านประทัดบุ ต.ไพล่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
บรรพชา-อุปสมบท
ปีพ.ศ.๒๔๙๘ พระครูญาณกิจไพศาล มีอายุ ๒๐ ปี บริบูรณ์ มีความศรัทธาประสงค์จะบวชรับใช้ในพระพุทธบวรศาสนา จึงขออนุญาต คุณโยมบิดา-มารดา อุปสมบท ก็ได้รับอนุญาตจึงได้บวชเป็นภิกษุ ณ วัดบูรพาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ ๑๗ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยมีหลวงปู่ดุลย์ อตุโล ขณะนั้นยังดำรงค์ตำแหน่ง (พระรัตนากรวิสุทธิ์)เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเปลี่ยน โอภาโส พระครูนวกิจโกศล สมณะศักดิ์ขณะนั้น(ปัจจุบันพระราชวิสุทธิธรรมรังสี)เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาเสถียร สถิโร (ปัจจุบันพระรัตนากรวิสุทธิ์)เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา ญาณวีโร
ฐานา - สมณะศักดิ์

ปี พ.ศ.๒๕๐๗ ๑. (พรรษาที่๑๐) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมทูตรุ่นแรก ไปอบรมที่ จ.อุดรธานี
ปี พ.ศ.๒๕๐๙ ๒. ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูสมุห์ใหญ่ ญาณวีโร
ปี พ.ศ.๒๕๑๐ ๓. ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนปริยัติธรรมศาสนศึกษา วัดบูรพาราม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระปลัดใหญ่ ญาณวีโร
ปี พ.ศ.๒๕๑๒ ๔. ได้รับคำสั่งให้ไปอบรม พระสังฆาธิการรุ่นแรก ที่วัดป่าสาละวัน จ.นครราชสีมา
ปี พ.ศ.๒๕๑๔ ๕. ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบล
ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ๖. ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจสอบธรรมสนามหลวง ทั้งพระสมุห์ และพระปลัด ฐานาของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล (พระรัตนากรวิสุทธิ์)
ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ๗. (พรรษาที่ ๒๑) ได้รับเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในพระราชทินนามพระครูญาณกิจไพศาล (จต.ชต.)
ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ๘. (พรราที่ ๓๒) ได้เลื่อนเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนา (จต.ชอ.วิ) ในพระราชทินนามเดิม คือ พระครูญาณกิจไพศาล
การปฎิบัติศาสนกิจ
ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ อุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดโคกลาว ต.ไพล่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นเวลา ๔ พรรษา
ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ท่านเจ้าคุณเทพสุทธาจารย์ (หลวงพ่อโชติ) ส่งไปหาสมเด็จมหาวีรวงศ์ เพื่อไปอบรมกรรมฐาน ที่วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพมหานคร และเมื่อได้รับการอบรมแล้วก็ได้กลับมาในปีนั้นเองและแวะลงพักที่วัดป่าสัทธาราม จังหวัดนครราชสีมา จึงได้พบและฟังธรรมเทศนาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร จึงเกิดปิติ และศรัทธาในองค์ จึงขอติดตามไปอยู่ถ้ำขามกับท่าน แต่ก็กลับมาขออนุญาตหลวงปู่ดุลย์ อตุโล ก่อนปลายปีพ.ศ. ๒๕๐๒ จึงได้ไปอยู่ถ้ำขาม
ปี พ.ศ.๒๕๐๒ – ๒๕๐๔ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ได้ให้หลวงปู่โชติ (พระเทพสุทธาจารย์) นำไปฝากมอบกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งหลวงปู่ฟั่นท่านก็ได้รับไว้เป็นศิษย์ให้อยู่ด้วย และติดตามท่าน เมื่อท่านอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร ขึ้นถ้ำขามหรือไปวิเวกธุดงค์ในสถานที่ต่างๆก็ติดตามท่านไปด้วยทุกแห่ง
ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ สุขภาพไม่ค่อยดี หลวงปู่ฝั้น จึงให้จำพรรษา อยู่ที่วัดป่าอุดมสมพรกับท่าน ไม่ให้ขึ้นถ้ำขาม เพื่อการศึกษาและปฎิบัติธรรมใกล้ชิดตลอดเวลา พอออกพรรษาก็ได้เดินตามท่านไปธุดงค์ หาความวิเวก ที่ อ.นาแก หลายแห่ง ตามป่า และภูเขา ร่วมอยู่ปฎิบัติธรรมกับท่านเป็นเวลา ๕ ปี
ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ปลายปีได้ทราบข่าวจากทางบ้านว่าโยมบิดาป่วย จึงกลับมา สุรินทร์ และพักอยู่ที่วัดบูรพาราม ในขณะที่พักอยู่เพื่อเยี่ยมอาการป่วยของโยมบิดา
หลวงปู่ดุลย์ อตุโล (พระรัตนากรวิสุทธิ์) ให้มาอยู่สร้างวัดตาเตน คือวัดป่าวีรญาณ ณ ปัจจุบันนี้ ซึ้งเป็นวัดปฎิบัติธรรมทุกวันนี้
ปีพ.ศ. ๒๕๐๗ – ๒๕๐๘ ได้ทำหน้าที่พระธรรมทูตเดินธุดงค์เผยแพร่การปฎิบัติธรรม
ไปตามตำบล และหมู่บ้านต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ พระครูญาณกิจไพศาลจึงมีลูกศิษย์อยู่เกือบทุกตำบล และหมู่บ้านในตัว จ.สุรินทร์ เป็นที่เคารพของญาติโยมและผู้ปฎิบัติธรรมเพระคำสั่งสอนของท่านที่เป็นหลักธรรมที่เข้าใจและปฎิบัติตามได้ง่ายและท่านเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อพลวง (อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์) ไปวิเวกตามป่า ภูเขา ในเขตประเทศเขมรหลายแห่ง พักอยู่แห่งละหลายๆวัน
ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ – ๒๕๑๐ ได้เริ่มสร้างศาลาการเปรียญ ที่วัดป่าวีรญาณ ขนาดกว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๒๔ เมตร
ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ – ๒๕๑๒ ได้ริเริ่มชักชวนพุทธบริษัทสร้างวัดตะคร้อ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งทุกวันนี้เรียกว่า วัดจอมสุรินทร์
ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้คิดฉลองศาลาการเปรียญ ที่วัดป่าวีรญาณ จึงได้อาราธนานิมนต์หลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และวัดถ้ำขาม พระอาจารย์สุวัจ สุวโจ วัดถ้ำสีแก้ว(อยู่บนภูพาน) พระอาจารย์อุ่น วัดบ้านโคก จ.สกลนคร มาในงานเพื่อให้ญาติโยมพุทธบริษัท ได้ฟังพระธรรมเทศนาของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ยังความปลาปลื้มแก่พุทธบริษัทเป็นอย่างมาก
ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ มาประจำเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าวีรญาณ บ้านตาเตน เริ่มพัฒนาวัด และสร้างวัตถุถาวร
ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ต่อเติมศาลาการเปรียญ ในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จ ให้สำเร็จ และมีผู้ถวายที่ดินจำนวน ๑๓ ไร่
ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ซื้อที่ดิน จำนวน ๙ ไร่ ในราคา ๖,๐๐๐ บาท (หกพันบาทถ้วน)
เพื่อสร้างกุฎิรับรองโยม จำนวน ๑ หลัง
ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ (พรรษาที่ ๓๒ ) ได้รับเลื่อนสมณะศักดิ์จากพระครูชั้นตรี (จต.ชต.) เป็นพระครูชั้นเอกฝ่ายวิปัสนา(จต.ชอ.วิ.) ในพระราชทินนามเดิม(พระครูญาณกิจไพศาล)

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น