อาถรรพ์ กุมารทอง



๑.     สร้างด้วยดิน ๗ ป่าช้า ผสมผงพรายกุมาร ผงพรายกุมารนั้นคือ ผงที่ได้จากการเอากระดูกเด็กมาป่นละเอียดผสมกับผงอิทธิเจและปถมัง กุมาร ประเภทนี้จะเฮี้ยน และแรงที่สุด แต่มีทั้งคุณและโทษภายในตัว วิญญาณที่เชิญลงมานั้นมักเป็นวิญญาณในป่าช้า หรือเป็นวิญญาณเด็กที่ติดอยู่กับผงพราย กุมารนั่นเอง กุมารประเภทนี้ต้องเซ่นไหว้ให้ดี และหากเวลาผ่านไปนานวัน วิญญาณภายในตัวกุมารก็สามารถโตขึ้นได้


๒. การสร้างด้วยเนื้อดินหรือเนื้อไม้แล้วเชิญญาณเทพลงมากุมาร ประเภทนี้มักจะไม่ค่อยแสดงตัวเหมือนอย่างแรก เพราะเป็นเทพไม่ต้อง เสพอาหารหยาบ ปกติมักปลุกเสกรวมกับพระเครื่อง เช่น กุมารทองของหลวงพ่อพล วัดไผ่ล้อม

๓. สร้างด้วยไม้ตายพราย ที่นิยมนั้นมักจะสร้างด้วยเนื้อไม้รักซ้อนตายพราย และไม้มะยมตายพราย เพราะถือว่าไม้ตายพรายนั้นเป็นไม้เทพสถิต มีความขลังอยู่ในตัวแม้ไม่ต้องปลุกเสก เมื่อได้ไม้ชนิดนี้มานั้นอาจารย์ผู้เสก จะประจุอาคมพระเวทย์ จิต ตั้งธาตุ หนุนธาตุ เรียกอาการ ๓๒ เรียกนาม จนเกิดเป็นวิญญาณอุบัติขึ้นมา วิญญาณที่เกิดขึ้นมานั้นจะเรียกว่าพราย คือไม่รู้จักโต พรายพวกนี้จะไม่ทำร้ายผู้ใด แต่ถ้าขาดการดูแลจะอ่อนกำลัง และสลายในที่สุด
๔.     การสร้างกุมารด้วย เขี้ยว งา แน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวหรืองาจะมีอาถรรพ์ในตัวเองและยิ่งได้เกจิหรือผู้มีวิชาอาจารย์ได้ปลุกเสกแล้วล่ะก็ยิ่งทำให้มีพลังมากกว่าเดิม สมัยก่อนได้มี กฎหมายสั่งห้ามไม่ไห้ทำกุลไสย หรือ แม้แต่กุมารทอง ถ้าเกิดทางการจับได้ต้องถูกต้องโทษเลยทีเดียว
ถ้าเลี้ยงดีจะเก็บประโยชน์ แต่ในกลับกันถ้าท่านเลี้ยงไม่ดีก็มีเกิดโทรได้เหมือนกัน
คาถากุมารทอง
นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ จะ ภะ กะ สะ จิเจรุนิ
นะออแอ โมออแอ พุธออแอ ธาออแอ ยะออแอ
มะอะอุ พุทธะสังมิ อิติกุมาโร ประสิทธิเมฯ
พุทธคุณ : เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย ดีนักแลฯ
 




ไม่มีความคิดเห็น: